SD-WAN LISM: Internet Backhaul

จากการสำรวจพบว่า ปัจจุบันความเร็วในการเชื่อมต่อระหว่างสาขาทั้งในและต่างประเทศมีการเชื่อมต่อเข้ามายังสำนักงานใหญ่, ดาต้าเซ็นเตอร์ และอินเทอร์เน็ตด้วยความเร็วที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับความเร็วอินเทอร์เน็ต บรอดแบนด์ ส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงานให้เกิดความล่าช้ากว่า อย่างไรก็ตามแนวทางการเพิ่มความเร็วสำหรับ MPLS ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงมากเกินกว่าที่หลายองค์กรจะสามารถลงทุนได้

จากปัญหาดังกล่าว จึงได้มีแนวคิดการออกแบบให้สำนักงานสาขาสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้โดยตรง ส่งผลทำให้มีความเร็วเพิ่มมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัวด้วยค่าใช้จ่ายเพียงหลักพันบาท และสามารถใช้อินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางสำรองเมื่อ MPLS มีปัญหา อย่างไรก็ตามเนื่องด้วยกฎหมาย พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 ทุกองค์กรต้องมีการจัดเก็บข้อมูลการจราจรบนอินเทอร์เน็ต ส่งผลให้ต้นทุนการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมจากที่มีอยู่สามารถคิดเป็นมูลค่าการลงทุนอีกก้อนหนึ่ง ซึ่งแนวคิดนี้เราเรียกว่า Hybrid WAN (Internet + MPLS)

อีกหนึ่งสิ่งที่หลายองค์กรควรตระหนักไม่น้อยไปกว่างบประมาณที่ใช้ลงทุน ยังมีอีกหลากหลายกรณี ยกตัวอย่างเช่น

• การควมคุมคุณภาพอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์จะจัดสรรและจัดการอย่างไร
• ความยุ่งยากของการบริหารจัดการระบบให้เป็นไปตามนโยบายของบริษัท
• ความชำนาญ จำนวนชั่วโมงที่บุคลากรด้านไอทีใช้ไปในการแก้ไขปัญหาและติดตั้ง Mean Time between Failure (MTBF), Mean Time to Repair (MTTR) ซึ่งส่งผลให้ต้องเพิ่มทีมงานเพื่อให้ตอบสนองกับธุรกิจได้รวดเร็ว

PROEN Internet มีแนวคิดการออกแบบและได้ติดตั้งใช้งานให้กับลูกค้าหลายองค์กรด้วยการนำเทคโนโลยี SD-WAN มาปรับใช้ให้ตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาที่พบในปัจจุบันด้วยแนวคิด Internet Backhaul โดยมีหลักการทำงานดังต่อไปนี้

1. SD-WAN EDGE ทุกสาขาสามารถบริหารจัดการด้าน Routing, QoS, Application Control ผ่านทาง GUI ด้วย Cloud Gateway
2. SD-WAN Cloud Network จะถูกสร้างขึ้นเพื่อเชื่อมต่อระหว่าง Internet Site, Hybrid Site, Wireless Site และ Cloud Gateway อย่างอัตโนมัติ
3. SD-WAN EDGE ตรวจสอบคุณภาพการเชื่อมต่อระหว่างสาขาและคลาวด์เกตเวย์ โดยตรวจสอบทั้ง เวลาที่ใช้ในการส่งข้อมูลผ่าน Network (Latency), ค่าและช่วงเวลาของความผันแปรของค่า Delay (Jitter) และ Packet Loss แล้วจึงนำมาคำนวณเส้นทางให้แก่ Voice, Video และ Transection เพื่อให้สามารถใช้งานได้ดีตลอดเวลา
4. ข้อมูลระหว่างสาขาสามารถเชื่อมต่อกันได้โดยตรงด้วย SD-WAN Cloud Network
5. ข้อมูลที่ต้องการส่งไปยังดาต้าเซ็นเตอร์และอินเทอร์เน็ต จะถูกส่งกรองด้วยไฟร์วอลถึงสองชั้น ชั้นแรกกรองแอปพลิเคชันด้วยไฟร์วอลบน SD-WAN EDGE แล้วจึงค่อยถูกกรองด้วยไฟร์วอลฝั่งดาต้าเซ็นเตอร์ หรืออาจจะเพิ่มอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยได้ตามที่องค์กรได้ออกแบบไว้เช่น APT, Proxy, DLP, Mail Gateway ซึ่ง ณ จุดนี้สามารถทำให้เก็บข้อมูลการจราจรทางอินเทอร์เน็ตและบริหารจัดการนโยบายเบ็ดเสร็จที่ศูนย์กลาง
6. ไฟร์วอล ณ ดาต้าเซ็นเตอร์เชื่อมต่อกับคอร์เน็ตเวิคของโปรเอ็นสามารถเพิ่มความเร็วได้มากสุดถึง 100Gbps

PROEN Internet จับมือเป็นพันธมิตรกับ VeloCloud พร้อมให้บริการ SD-WAN as a Service ภายใต้แบรนด์ BranchConnect

• เพิ่มความคล่องตัวและความเร็วอินเทอร์เน็ตมากกว่าเท่าตัว
• บริการเป็นรายเดือน No CapEx การันตีด้วยผลวิเคราะห์จากการ์ทเนอร์
• บริการด้วยทีมงานวิศวกรตลอด 24 ชั่วโมงผ่านทาง Email/Chat/Call