Skip to content
Contact us

“PROEN MANAGE SASE” มิติใหม่แห่งการทำงานแบบ Hybrid Workplace มั่นคงปลอดภัย ทุกที่ทุกเวลา ในราคาเซฟต้นทุน ที่สุดแห่งโซลูชั่นจากผู้นำด้าน Network & Cyber Security ระดับโลก

 

Hybrid Workplace คือการทำงานรูปแบบใหม่ ในหลากหลายสถานที่ เพื่อทลายข้อจำกัดในอดีตที่เคยพบมาไม่ว่าจะเป็น ข้อกังวลด้านความมั่นคงปลอดภัยของผู้ใช้งานจากภายนอกองค์กร หรือการสร้างความมั่นใจในการเข้าถึงทรัพยากรขององค์กรที่อาจจะกระจายตัวอยู่ในโลกของ “Cloud Platform” ได้อยากต่อเนื่อง ซึ่งจากนี้ไปกำลังจะกลายเป็นมาตรฐานในการทำงานของภาคธุรกิจในเวลาอันใกล้นี้ การวางสถาปัตยกรรมและจัดเตรียมระบบเครือข่าย พร้อมทั้งการรักษาความมั่นคงปลอดภัยแบบใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบการทำงานที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง จากนี้จึงกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นที่ต้องเติมเต็มให้กับองค์กร เพื่อให้ทันต่อกระแสการเปลี่ยนแปลงและโอกาสในการแข่งขันเพื่อชิงความได้เปรียบด้านความรวดเร็ว ความสะดวก และงบประมาณที่คุ้มค่าต่อการลงทุน

 

บทความนี้ จะพาทุกท่านไปรู้จักกับ “PROEN MANAGE SASE” ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกการทำงานจากหลากหลายที่ให้เป็นไปได้ อย่างชาญฉลาด ต่อเนื่อง มั่นคงปลอดภัย อีกทั้งยังดูแลได้ง่ายด้วยเครื่องมือที่ครบครัน เข้าถึงได้ด้วยงบประมาณและค่าบริการแบบเบาๆ

 

องค์ประกอบของ PROEN MANAGE SASE

ซึ่งสถาปัตยกรรมของ PROEN MANAGE SASE มีแนวคิดที่ต้องการให้ผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน นั้นใช้งานได้อย่างมั่นคงปลอดภัยเป็นหลัก โดยการผสานเทคโนโลยีจาก 2 ผู้นำของโลกในด้าน WAN Edge Infrastructure จาก VMware SD-WAN ในด้าน Cyber Security และ จาก Palo Alto Network ในด้าน Virtual Network Firewall ให้กลายเป็นองค์ประกอบที่ลงตัว โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ Connect, Protect และ Apps

 

Connect Conceptual

  • กลุ่ม Office หรือ ข้อมูลที่อยู่ใน Data Center จะใช้ VMware SD-WAN EDGE ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมต่อสำนักงานแต่ละที่ให้สามารถเข้าถึงกันได้อย่างง่ายดายในการตั้งค่าบริหารจัดการ อีกทั้งยังคงสามารถทำการเชื่อมต่อออกไปยัง Internet ด้วยโครงข่ายที่เหมาะสมกับงบประมาณที่มี ให้มีความต่อเนื่องและช่วยจัดการลำดับความต่อเนื่อง ของข้อมูล โดยอาศัยความชาญฉลาดจากเทคนิคที่เรียกว่า DMPO และที่สำคัญข้อมูลหรือผู้ใช้งานจะได้รับการปกป้องโดย SASE Architecture ที่ถูกเตรียมไว้รอแล้ว
  • Remote User/Home Office จะเป็นการใช้งานผ่าน Palo Alto Global Protect ที่เป็นตัวเชื่อมต่อโดยผ่านบริการ VPN as a Service ที่ PROEN NODE POP (Point of Presence) ทำให้การเข้าใช้งานจากผู้ใช้เป็นไปอย่างรวดเร็ว เพราะเราเป็น Internet Data Center ที่มี Link Bandwidth ในประเทศมากที่สุดในไทย พร้อมการตั้งค่าในแบบ Zero Trust และได้รับการปกป้องจาก PROEN MANAGE SASE ก็จะยังคงเกิดขึ้นได้สำหรับผู้ใช้งานทุกคนจากทุกอุปกรณ์เช่นกัน

 

Protect

PROEN MANAGE SASE ได้นำเทคโนโลยีของ Palo Alto คือ PAN-OS Nebula ที่มีคุณสมบัติในการรวบรวม วิเคราะห์ ความเป็นไปได้ของภัยคุกคามที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน แบบ Realtime โดยใช้การเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) และการให้ความสำคัญถึงความปลอดภัยของเครือข่ายเป็นอันดับแรก ส่งผลให้การป้องกันภัยคุกคามเร็วขึ้นถึง 6 เท่า รวมทั้งการตรวจพบภัยคุกคามได้มากขึ้นอีก 48% ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการปกป้องแสะตรวจสอบที่เหนือกว่า PAN-OS รุ่นที่เคยเปิดตัวมาก่อนนี้ เพื่อต่อสู้กับกับการโจมตีทางไซเบอร์ที่ขยายตัวมากยิ่งขึ้นทั้งในปัจจุบันและที่จะตามมาในอนาคต รวมไปถึงป้องกันการใช้ช่องโหว่ที่ไม่รู้จักมาก่อน (Zero-Day) บนอุปกรณ์ในระบบหรือในโปรแกรมที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อเจาะหรือโจมตีระบบเครือข่ายองค์กร ช่วยปกป้องความปลอดภัยบนไซเบอร์เป็นพิเศษ อันมีส่วนประกอบไปด้วยคุณสมบัติเด่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Advanced Threat Prevention, AIOps, DNS Security, Advanced URL Filtering และระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับอุปกรณ์ IoT Security 2.0

  • Advanced Threat Prevention เป็นระบบป้องกันการบุกรุก (IPS) ที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมนี้ ซึ่งจะนำการวิเคราะห์ความปลอดภัยจาก “ออฟไลน์” สู่ “อินไลน์” โดยใช้การประมวลผลบนคลาวด์ด้วยเอไอ และเทคนิคการเรียนรู้เชิงลึก – โดยไม่สูญเสียประสิทธิภาพของการป้องกันการบุกรุกขั้นสูง ( Advanced Threat Prevention) สามารถตรวจจับการโจมตีแบบสั่งและควบคุม (C2) ที่ไม่รู้จัก และกำหนดเป้าหมายได้ครอบคลุมหลากหลายรูปแบบ รวมถึงการโจมตีแบบหลบเลี่ยงจากเครื่องมือต่างๆ เช่น เครื่องมือ Cobalt Strike
  • AIOps: เทคโนโลยีเอไอในการปฏิบัติการ (AIOps) ใหม่ใช้ Machine Learning ในการคาดการณ์การโจมตีได้สูงสุดถึง 51% ก่อนที่จะถูกโจมตีไฟร์วอลอล์ นอกจากนี้แล้ว ด้วยการวัดและส่งข้อมูลทางไกลจากการปรับใช้มากกว่า 6,000 ครั้ง ระบบ AIOps สามารถแนะนำแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ในภาพรวมได้
  • DNS Security โดยได้รวมการรักษาความปลอดภัยระดับโดเมนเนม (DNS) ช่วยเสริมปราการป้องกันเทคนิคการโจมตีที่ระดับ DNS แบบล่าสุด ซึ่งรวมถึงโดเมนที่มีอายุ ทำให้เป็นโซลูชันการรักษาความปลอดภัย DNS ที่ครอบคลุมที่สุด พร้อมการครอบคลุมภัยคุกคามบน DNS มากกว่าผู้ผลิตชั้นนำอื่นๆ ถึง 40%
  • Advanced URL Filtering หรือการกรอง URL ขั้นสูง เสริมการป้องกันการโจมตีประเภทฟิชชิ่ง (Phishing) มัลแวร์เรียกค่าไถ่ และการโจมตีผ่านเว็บ โดยอาศัยการวิเคราะห์ Traffic ของเว็บผ่านเทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึกแบบเรียลไทม์และรองรับเว็บคอนเทนต์ (Web Content) โดยผสานรวมการทำงานไว้ในตัว
  • ระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับอุปกรณ์ IoT Security 2.0: ลดความซับซ้อนของการมองเห็นอุปกรณ์ IoT และสร้างนโยบายอัตโนมัติในอุปกรณ์ที่มองเห็นและมองไม่เห็นโดยใช้ Machine Learning

 

Apps

โซลูชัน PROEN MANAGE SASE ยังสามารถทำ Interconnect ได้ทั้งแบบ Office to Cloud, Data Center to Cloud และ Cloud to Cloud ด้วย VMware SD-WAN ที่ช่วยให้เชื่อมต่อได้ง่าย และสามารถใช้งาน Apps ได้รวดเร็วมากกว่าเดิม โดยรองรับการทำงานทั้งแบบ AWS, Azure และ Google Cloud และ Cloud Provider ชั้นนำของโลก ดังการเชื่อมต่อด้านล่าง

  • Integration to Google Cloud Platform สามารถติดตั้งได้จาก Marketplace

PROEN MANAGE SASE  พร้อมช่วยปกป้องทุกการทำงานแบบ Hybrid Workplace ของคุณ

เราพร้อมเป็นที่ปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยี ด้วยประสบการณ์การให้บริการด้าน IT and Digital Service ที่อยู่คู่กับประเทศไทยมามากว่า 23 ปี ภายใต้คอนเซ็ปต์ “We do for your Success” ติดต่อเราได้ที่

Email: dr.wan@proen.co.th

Web: https://www.proen.co.th

Web: https://www.branchconnect.in.th

Call: 02-690-3888
, , , , ,